ต่างหูเพชรผู้ชาย – ทำไมต้องต่างหูเม็ดเดี่ยว? ต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวคือสิ่งควรค่าที่ผู้หญิงทุกคนควรจะมี ต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยว นั้นเป็นสุดยอดเครื่องประดับชิ้นคลาสสิกที่ผู้หญิงทุกคนควรต้องมีสักชิ้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องประดับที่สาวๆสมัยใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาเอาใจ สามารถซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเอง จะในโอกาสใดก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงสไตล์ หวานเปรี้ยวร็อคเกอร์หรือว่าแฟชั่นนิสต้าสุดจัดจ้าน รับรองได้เลยว่าต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยว นั้นจะอยู่กับคุณได้ในทุกยุคทุกสมัย ไม่ตกเทรนแน่นอน นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอีกหลากหลายประการที่ช่วยยืนยันว่า ต่างหูผู้หญิง ต่างหูเพชรผู้ชาย เพชรเม็ดเดี่ยว นั้นคือเครื่องประดับที่ทุกคนควรจะมี
1.ความแน่นอนในการลงทุน: ต่างหูสตั๊ดนั้นเรียบหรู ไม่หลุดจากเทรนด์แฟชั่นไปง่ายๆ สาวน้อยสาวใหญ่ใครๆก็ชอบ หากถึงเวลาขายก็หาผู้ซื้อได้ไม่ยากและจะทำกำไรให้อย่างไม่น่าผิดหวัง
2.เลือกความต้องการเองได้: อยากได้เม็ดใหญ่ หรือเล็ก น้ำงาม ขาวจั๊ว ประกายแค่ไหนคุณสามารถกำหนดเองได้ เพราะฉะนั้นสาวๆที่สวมใส่ต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวคือผู้กำหนดเองว่าอะไรเข้ากับสไตล์การใช้ชีวิตมากที่สุด
3.ใส่ได้ทุกวันชัวร์: นอกจากจะชัวร์ด้านกาละเทศะในทุกโอกาสด้วยสไตล์ที่ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป แถมยังแน่ใจได้ในเรื่องฟังก์ชั่นการสวมใส่ด้วยดีไซน์แนบติดหูไม่หล่นหาย ถึงจะปาร์ตี้สุดเหวี่ยงอย่างไรก็ไม่ร่วง แถมยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใส่ไปร่วมงานสำคัญอย่างงานวันเกิดหรืองานแต่งงาน เพราะทำช่วยให้ใบหน้าดูสดใสแบบพอดีๆ และขนาดไม่ใหญ่จนไปสะดุดตาใครต่อใครเกินหน้าเกินตาเจ้าของงาน
4.จะมีไว้กี่คู่ก็ได้ไม่รู้สึกผิด : ก็บอกไปแล้วว่าซื้อมาแล้วได้ใส่บ่อยแน่ๆ และถ้าหากติดใจต่างหูสไตล์นี้ก็มีหลากหลายสไตล์ให้เลือกโดยเฉพาะรูปทรงของเพชรที่ใช้ประดับ เพชรรูปทรงแตกต่างกันๆนั้นอาจดูเหมือนเป็นรายละเอียดเล็กๆ แต่จริงๆแล้วเป็นดีเทลสำคัญที่ช่วยบ่งบอกสไตล์ได้เป็นอย่างดี หากใครคิดมากว่ามีต่างหูสตั๊ดอยู่แล้ว มีเพิ่มอีกจะเป็นไรไหม ไม่เป็นไรเลย เชื่อเรา เห็นไหมหล่ะ ว่าทำไมต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวถึงเป็นจิวเวลรี่ที่ดีต่อใจและควรจะมี
วิธีการเลือกเพชร
วิธีการเลือกเพชร เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตเนื่องจากเป็นการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าและมีคุณค่าทางจิตใจ จึงต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
อนันทาจึงขอเสนอแนวทางเพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาซื้อเพชร วิธีการซื้อเพชร ซึ่งหลังจากที่ลูกค้าได้ศึกษาแนวทางเหล่านี้แล้ว จะสามารถเข้าใจวิธีการเลือกเพชรได้ดีขึ้นเพื่อที่จะเลือกซื้อเพชรคุณภาพได้อย่างมั่นใจ การเลือกซื้อเพชร ก็จะไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจไม่ได้อีกต่อไป
4 CS: พื้นฐานเบื้องต้น
เพชรมีพื้นฐานอยู่ 4 ประการ หรือเรียกว่า 4 Cs ได้แก่
Carat Weight (กะรัต) Cut (การเจียระไน) Color (สี) และ Clarity (ความสะอาด)
กะรัต (Carat)การเจียระไน (Cut)สี, น้ำ (Color)ตำหนิ, ความสะอาด (Clarity)
กะรัต (CARAT)
หน่วยที่ใช้เป็นมาตรฐานในการใช้ชั่งน้ำหนักเพชรและอัญมณีต่างๆคือ ‘กะรัต’ (Carat) หรือใช้ตัวย่อว่า ct
ใน 1 กะรัตจะแบ่งเป็นหน่วยย่อย 100 หน่วย เรียกว่า Point หรือที่รู้จักกันว่า “ตัง” เช่น เพชรที่มีขนาด 0.50 ct. จะเรียกว่า 50 Points หรือ 50 ตัง
ราคาของเพชรนั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักและคุณลักษณะอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นเพชรที่มีน้ำหนักเท่ากัน อาจจะมีราคาที่แตกต่างกันได้ อีกทั้งราคาของเพชรจะไม่ได้สูงขึ้นในอัตราส่วนเดียวกับน้ำหนักกะรัตแต่จะถูกแบ่งตามช่วงน้ำหนัก เช่น เพชร 1 กะรัต ไม่ได้มีราคา เป็น 2 เท่าของเพชร 50 ตัง หรือ เพชร 2 กะรัต ไม่ได้มีราคาเป็น 2 เท่าของ เพชร 1 กะรัต เป็นต้น ซึ่งอนันทามีเพชรให้ลูกค้าเลือกทุกขนาดตามความต้องการ ตั้งแต่ขนาด 1 ตัง จนถึง ขนาด 4 กะรัตขึ้นไป
วิธีการเจียระไนนั้นรวมถึงความสามารถและความชำนาญ สัดส่วนของเพชรนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพชรที่สวยควรมีสัดส่วนเหมาะสม ไม่ควรมีหน้ากว้างหรือแคบเกินไป และไม่ควรมีความลึกหรือตื้นจนเกินไป
ลักษณะของแสง (Light’s Performance) ที่ดีนั้น แสงทั้งหมดจะต้องถูกสะท้อนมายังผู้สวมใส่ เพื่อส่งผลให้เกิด ความแวววาวและไฟประกาย (Brilliance and fire) สูงสุด
เพชรทรงกลมที่ได้ความนิยมที่สุดคือ “Brilliant Cut” ส่วนเพชรที่เจียระไนสวยที่สุดในปัจจุบันคือ เพชรที่ได้รับเกรดเป็น triple excellent จากใบรับรองสถาบันสากล และเป็นเพชรที่มีเหลี่ยมเป็น Hearts and Arrows ที่ครบและสมมาตร
คุณภาพของการเจียระไนและการขัดผิวจะส่งผลต่อลักษณะของแสงที่เดินทางผ่านเพชรมาให้เราเห็น คุณสมบัติเหล่านี้ได้แก่ Proportion (สัดส่วน), Symmetry (ความสมมาตร), Polish (การขัดผิว) และอื่นๆ
สี, น้ำ (COLOR)
เพชรนั้นมีหลายสีแต่โดยทั่วไปเรามักจะพบเพชรที่มีลักษณะเป็นสีขาวหรือไร้สี การลำดับสีของเพชรนั้นเริ่มจาก ไร้สีจนไปถึงปนเหลืองส่วนเพชรที่มีสีเหลืองเข้ม น้ำตาล ฟ้า ชมพู ม่วง หรือส้มนั้นจัดอยู่ในอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่าเพชรแฟนซี
การจัดแบ่งสีของเพชรต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะสายตาของคนทั่วไปจะไม่สามารถมองเห็นความ แตกต่างของสีเพชรได้ ดังนั้นเพชรทุกเม็ด ต้องมีใบ Certificate กำกับตัวอย่างสีของเพชรตาม “น้ำ” ระดับต่างๆ
สีของเพชรจะถูกจัดแบ่งโดยเริ่มตั้งแต่เพชรที่ใส ไม่มีสี (Colorless), จนเริ่มมีสีนวลขึ้นในระดับที่สายตาเริ่มสังเกตได้ (Near Colorless), เป็นสีเหลืองจาง (Yellow Tinge) และเป็นสีเหลืองอ่อน (Light Yellow) หากใช้มาตรฐาน ของ GIA จะสามารถแบ่งระดับสีหรือที่นิยมเรียกกันว่า ‘น้ำ’ โดยใช้อักษรตั้งแต่ D ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำ 100 ถัดมาเป็น E ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำ 99 และ F ซึ่งเท่ากับนํ้า 98 ไล่ตามลำดับจนถึง Z
ตำหนิ, ความสะอาด (CLARITY)
ความสะอาด (Clarity) หมายถึง ตำหนิที่เกิดจากธรรมชาติของเพชร
เพชรนั้นเกิดขึ้นตามธรรมชาติภายใต้แรงกดดันและอุณหภูมิที่สูงมาก ปรากฏการณ์ธรรมชาติสามารถก่อให้เกิดรอยตำหนิในเพชร หรืออาจทำให้เพชรมีมลทินได้ ดังนั้นเพชรที่ไม่มีมลทินและตำหนิ หรือมีน้อยนั้นก็จะยิ่งหายากและมีมูลค่าสูงขึ้น
เพชรส่วนใหญ่ของอนันทา เป็นเพชรคุณภาพ IF, VVS1 และ VVS2 แต่หากต้องการคุณภาพอื่น อนันทาก็มีให้เลือกชมด้วยเช่นกัน
เราสามารถแบ่งเพชรตามคุณภาพของความสะอาด ภายใต้การใช้กล้องที่มีกำลังขยาย 10 เท่าได้ตามตารางภาพ
ใบเซอร์รับรองเพชร
ใบรับรองเพชรเป็นเอกสารระบุข้อมูลและรายละเอียดของเพชรแต่ละเม็ด ที่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดในเรื่องของ ขนาด สี ลักษณะมลทินหรือตำหนิ และการเจียระไน เพชรที่ท่านเลือกซื้อควรเป็นเพชรที่มีใบรับรองจากสถาบันอัญมณีสากลที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อสร้างความ มั่นใจว่าท่านจะได้รับเพชรที่มีคุณภาพถูกต้องตามมาตรฐานสากล มิใช่การแอบอ้างของแต่ละร้านค้า ปัจจุบันมีสถาบันด้านอัญมณีหลายสถาบันทั่วโลกที่ออกใบรับรองคุณภาพเพชรโดยสถาบันหลักได้แก่GIA (Gemological Institute of America) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาทางด้านอัญมณีศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และได้รับความนิยมมากที่สุด
เชื่อกันว่าเพชรที่ได้ใบรับรอง (Certificate) จาก GIA มีมาตรฐานที่ดีที่สุด ซึ่งในปัจจุบันเพชรของ GIA จะได้รับการเลเซอร์รหัสเลขของเพชรที่ขอบเพชรทุกเม็ด (*GIA เป็นสถาบันที่คิดค้นและพัฒนาการประเมินคุณภาพเพชรโดยระบบที่โดดเด่นที่สุดคือระบบการประเมินคุณภาพสีของเพชรที่ใช้เพียงตัวอักษรภาษาอังกฤษแทนระดับสี เช่น D เท่ากับสีของเพชรที่ใส ไม่มีสี หรือที่เราเรียกกันว่าน้ำ 100 นั่นเอง)
ส่วนสถาบันอื่นๆ ก็เช่น HRD Antwerp (Hoge Raad voor Diamant หรือ Diamond High Council, Belgium) ตั้งอยู่ที่เมือง Antwerp ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นเมืองหลักเมืองหนึ่งในการซื้อขายเพชรของโลก
ตารางราคาเพชร RAPAPORT
ราคา Rapaport คือราคาตารางราคาเพชรที่ร้านค้าหรือลูกค้าจะใช้อ้างอิงในการซื้อขายเพชรทั่วโลกโดยจะออก ทุกเดือนเป็นราคาหน่วยดอลล่าร์สหรัฐต่อกะรัตซึ่งหลังจากที่ร้านค้าหรือลูกค้าทราบคุณสมบัติ 4Cs ของเพชรที่ต้องการก็สามารถอ้างอิงจากราคาของ Rapaport ได้ซึ่งราคา Rapaport นั้นจะเป็นราคาที่ยังไม่รวมส่วนลด ทั้งนี้เพชรแต่ละทรงหรือแต่ละขนาดสามารถให้ส่วนลดได้ไม่เท่ากันบางทรงหรือบางขนาดอาจจะไม่มีส่วนลดเลยก็ได้
ราคา Rapaport นั้นเป็นราคากลางแต่จากรายละเอียดอื่นๆของเพชร เช่น ความสมบูรณ์ของการเจียระไน, สัดส่วน หรือสารเรืองแสง (Fluorescence) อาจจะส่งผลต่อส่วนลด หรือราคาที่แตกต่างกันด้วย
ติดต่อสอบถาม
www.facebook.com/anantajewelry/
กลับสู่หน้าหลัก https://how2.bet